ภาษามือที่พบบ่อยในญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ใช้ภาษามือหลายแบบ
โดยไม่ต้องใช้คำพูด ใช้แค่ภาษามือก็สามารถสื่อสารเข้าใจกันได้ ภาษามือ 7 ท่าที่จะนำเสนอต่อไปนี้ รู้ไว้
ได้นำไปใช้จริงแน่ค่ะ
1. Maru (マル)
เป็น ท่ายกแขนขึ้นเหนือศีรษะแล้วทำเป็นรูปวงกลม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงความหมายในด้านบวก เช่น ถูกต้อง ตกลง หรือสอบผ่าน ในการตรวจคำตอบที่ถูกต้องของนักเรียนญี่ปุ่น ก็จะใช้เครื่องหมาย Maru วงกลมนี้ (ไม่ใช่ได้ศูนย์คะแนนนะคะ อย่าตกใจไป^^ ) ซึ่งต่างกับของไทยที่ใช้เครื่องหมายถูก
1. Maru (マル)
เป็น ท่ายกแขนขึ้นเหนือศีรษะแล้วทำเป็นรูปวงกลม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงความหมายในด้านบวก เช่น ถูกต้อง ตกลง หรือสอบผ่าน ในการตรวจคำตอบที่ถูกต้องของนักเรียนญี่ปุ่น ก็จะใช้เครื่องหมาย Maru วงกลมนี้ (ไม่ใช่ได้ศูนย์คะแนนนะคะ อย่าตกใจไป^^ ) ซึ่งต่างกับของไทยที่ใช้เครื่องหมายถูก
2.
Batsu (バツ)
ท่านี้จะยกแขนสองข้างขึ้นไขว้กันทำเป็นรูปกากบาท สื่อความหมายในด้านลบ เช่น ไม่ตกลง ใช้ไม่ได้ หรือความพ่ายแพ้ เวลาตรวจคำตอบที่ผิดก็จะใช้เครื่องหมาย Batsu ผิด × นี้เหมือนกับของไทย
ท่านี้จะยกแขนสองข้างขึ้นไขว้กันทำเป็นรูปกากบาท สื่อความหมายในด้านลบ เช่น ไม่ตกลง ใช้ไม่ได้ หรือความพ่ายแพ้ เวลาตรวจคำตอบที่ผิดก็จะใช้เครื่องหมาย Batsu ผิด × นี้เหมือนกับของไทย
3.
Sumimasen (すみません)
เป็น ท่าที่ใช้ในการขอทาง หรือ ขออภัยในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ลักษณะคล้ายท่าพนมมือของไทย แต่ใช้มือเดียวตั้งตรง นิ้วโป้งใกล้จมูก ก้มศีรษะลงมาเล็กน้อย แสดงการขออภัย
เป็น ท่าที่ใช้ในการขอทาง หรือ ขออภัยในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ลักษณะคล้ายท่าพนมมือของไทย แต่ใช้มือเดียวตั้งตรง นิ้วโป้งใกล้จมูก ก้มศีรษะลงมาเล็กน้อย แสดงการขออภัย
4.
Nattoku (納得)
ท่า นี้ใช้แสดงการยอมรับในสิ่งที่อีกฝ่ายพูด หรือใช้ประกอบการพูดเพื่อแสดงอารมณ์สื่อความเข้าใจ ที่เรามักจะเห็นท่าทางของตัวละครในภาพยนตร์ หรือในการ์ตูนที่จะกำมือข้างหนึ่ง แล้วใช้สันมือของกำปั้นนั้น กระแทกไปบนฝ่ามืออีกข้าง แล้วพูดว่า “ อ๋ออ! อย่างนี้นี่เอง” หรือ “นั่นสินะ!” พร้อมกับดวงตาอันเป็นประกาย *_* !
ท่า นี้ใช้แสดงการยอมรับในสิ่งที่อีกฝ่ายพูด หรือใช้ประกอบการพูดเพื่อแสดงอารมณ์สื่อความเข้าใจ ที่เรามักจะเห็นท่าทางของตัวละครในภาพยนตร์ หรือในการ์ตูนที่จะกำมือข้างหนึ่ง แล้วใช้สันมือของกำปั้นนั้น กระแทกไปบนฝ่ามืออีกข้าง แล้วพูดว่า “ อ๋ออ! อย่างนี้นี่เอง” หรือ “นั่นสินะ!” พร้อมกับดวงตาอันเป็นประกาย *_* !
5.
Watashi (私)
Watashi มีความหมายว่า ฉัน หรือข้าพเจ้า คนไทยเราเมื่อพูดถึงตนเอง ส่วนใหญ่มักจะเอานิ้วชี้ ชี้เข้าหาตัวเอง หรือไม่ก็เอามือผายเข้าหาตัวเองใช่ไหมคะ แต่ของญี่ปุ่นมีลักษณะต่างออกไปค่ะ คือ เมื่อเวลาพูดถึงตนเอง จะใช้นิ้วชี้ ชี้ไปที่ปลายจมูกของตัวเอง ระหว่างที่พูดไปด้วยค่ะ
Watashi มีความหมายว่า ฉัน หรือข้าพเจ้า คนไทยเราเมื่อพูดถึงตนเอง ส่วนใหญ่มักจะเอานิ้วชี้ ชี้เข้าหาตัวเอง หรือไม่ก็เอามือผายเข้าหาตัวเองใช่ไหมคะ แต่ของญี่ปุ่นมีลักษณะต่างออกไปค่ะ คือ เมื่อเวลาพูดถึงตนเอง จะใช้นิ้วชี้ ชี้ไปที่ปลายจมูกของตัวเอง ระหว่างที่พูดไปด้วยค่ะ
6.
Kare & Kanojo (彼・彼女)
คุณจะพบท่านี้เมื่อมีคนถามถึงแฟนสาว หรือแฟนหนุ่มของคุณ หรือในบางทีก็จะไม่ถามเป็นคำพูดออกมา แต่ถามทางอ้อมโดยใช้ภาษามือ หากพูดถึงแฟนหนุ่ม (Kare) จะกำมือแล้วชูนิ้วโป้งขึ้น แต่หากถามถึงแฟนสาว (Kanojo) จะกำมือแล้วกระดกนิ้วก้อยขึ้น
คุณจะพบท่านี้เมื่อมีคนถามถึงแฟนสาว หรือแฟนหนุ่มของคุณ หรือในบางทีก็จะไม่ถามเป็นคำพูดออกมา แต่ถามทางอ้อมโดยใช้ภาษามือ หากพูดถึงแฟนหนุ่ม (Kare) จะกำมือแล้วชูนิ้วโป้งขึ้น แต่หากถามถึงแฟนสาว (Kanojo) จะกำมือแล้วกระดกนิ้วก้อยขึ้น
7.
Peace sign (ピースサイン)
แน่ นอนว่าท่ายอดนิยมในการโพสถ่ายรูปท่านี้ ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จัก นั่นก็คือ ท่าชูสองนิ้วนั่นเอง นอกจากใช้โพสถ่ายรูปแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์ใช้สื่อถึงการประสบความสำเร็จอีกด้วย
แน่ นอนว่าท่ายอดนิยมในการโพสถ่ายรูปท่านี้ ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จัก นั่นก็คือ ท่าชูสองนิ้วนั่นเอง นอกจากใช้โพสถ่ายรูปแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์ใช้สื่อถึงการประสบความสำเร็จอีกด้วย
แหล่งที่มา -
http://www.marumura.com/language/?id=2082
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น